Monday, June 20, 2011

เมื่อครูพร้อมศิษย์ก็เกิด จากบทเรียนของก๊วยเจ๋งสู่การเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์และบัณฑิต

ย่อจาก http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9540000074094

ครูชุด 7 ตัวประหลาดนั้นมีปัญหาอย่างหนักทีเดียวกับการให้การศึกษาแก่เด็กพิเศษอย่างก๋วยเจ๋ง พ่อและแม่ในยุคนี้ควรดูไว้นะครับ เพราะตามท้องเรื่องนั้น 6 ตัวประหลาดแกไม่ได้ดูเลยว่า มันสมองระดับที่ก๋วยเจ๋งมีสามารถที่จะเรียนรู้และรับรู้อะไรได้บ้าง

พังเพยของตะวันตกว่าเอาไว้...เมื่อครูพร้อมศิษย์ก็เกิด แต่เมื่อครูไม่พร้อมศิษย์จะเกิดได้อย่างไร?

ความไม่พร้อมและไม่พอของ 7 ตัวประหลาด ตั้งแต่การกระหน่ำสอนวิชาตามความถนัดของตัวเองมีให้แก่ก๋วยเจ๋งแบบไม่บันยะบันยัง นั่นแปลว่าเด็กไอคิวต่ำแบบเขาจะต้องมารองรับวิชาที่ตั้งแต่ทื่อมะลื่อที่สุดยันวิชาล้วงกระเป๋าที่พริ้วไหวที่สุด...ลองนึกดูเอาเองว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นแก่ก๋วยเจ๋ง

สภาพเช่นนั้นเกิดมาตลอด 10 ปี การศึกษาเรื่องหมัดมวยโดยอาจารย์ประหลาดนั้นเกิดขึ้นในภาคกลางคืน แต่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเหมือนกันนะครับที่ในภาคกลางวันนั้นก๋วยเจ๋งก็ยังคงฝึกในเรื่องของการควบม้า ยิงธนู ควบคุมทหารในกองทัพ จัดกระบวนทัพ คุมทหารเข้าทะลวงแนวต้านอย่างไร ซึ่งก๋วยเจ๋งก็ทำได้ดีเทียบเท่าเซลุยซึ่งเป็นบุตรของเตมูจินเจงกิสข่าน กิมย้งบรรยายว่า เตมูจินเห็นว่าวิชาหมัดมวยใช้แค่ต่อสู้ป้องกันตัว ไม่เพียงพอที่จะแสดงอาณุภาพในสนามรบสร้างชื่อเสียงป้องกันดินแดนและกลืนกินดินแดนได้ อาจารย์สอนยังคงเป็นเทพเกาทัณฑ์เจอเปอยู่นั่นเอง

...ประเด็นคือว่า ถ้าก๋วยเจ๋งโง่ดักดานเกินเหตุ เขาไม่น่าจะเรียนวิชาทางการทหารแบบนี้ได้ ซึ่งการเป็นแม่ทัพนั้นต้องมองเห็นความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในสนามรบได้ เพราะฉะนั้นปัญหาจึงน่าจะอยู่ที่ตัวครูมากกว่าที่ไม่ได้ป้อนในสิ่งที่ถูกต้องให้แก่ลูกศิษย์ หรือ ป้อนกับผิดวิธีทางใดทางหนึ่ง

กิมย้งบรรยายถึงความไม่เอาอ่าวของหกประหลาดว่า แต่ละคนนั้นฝึกวิชาได้ระดับนี้ เพราะใช้เวลายาวนานคร่ำเคร่งฝึกปรือ แต่จะให้ก๋วยเจ๋งใช้เวลาไม่กี่ปีฝึกฝนจนชำนาญในทุกวิชาของทั้งหมด แม้นับเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องยังยากยิ่งจะกระทำ อย่าว่าแต่ก๋วยเจ๋งมีสติปัญญาต่ำกว่าธรรมดามาก

ผู้แต่งคนเก่งของเรายังบอกเอาไว้ว่า ยิ่งเร่งสอน ยิ่งเร่งที่จะยัด (เพราะกลัวลูกศิษย์จะแพ้ทำให้ตัวเองเสียหน้าต่อคูชู่กีพรตอมตะ) ความก้าวหน้าในเชิงวิชาบู๊ของก๋วยเจ๋งกลับยิ่งถดถอย “จะเร็วกลับไม่บรรลุ ตะกรามเคี้ยวไม่ละเอียด” แต่แทนที่จะมานั่งดูว่าตัวเองสอนผิดวิธีหรือเปล่า บรรดาตัวประหลาดทั้งหลายกลับยิ่งเคี่ยวเข็ญหนักกว่าเดิมเป็นสองเท่าสามเท่า...

เรื่องมาโอละพ่อเอาตอนนี้ครับ...และเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เจ้าทึ่มก๋วยเจ๋งกลายเป็นจอมยุทธก๋วยขึ้นมา********************************

ครูสำนักที่สามที่เข้ามาตบให้พื้นฐานและสัญชาติญาณของร่างกายมีชื่อว่า “ เบ๊เง็ก” หนึ่งใน 7 อริยเจ้าแห่งสำนักสัจธรรมไพบูลย์หรือช่วนจิน และเป็นศิษย์คนโตของเฮ้งเต๊งเอี๊ยงปรมาจารย์ผู้ก่อตั้งสำนัก ตัวเฮ้งเต้งเอี๊ยงนั้นตามตำนานอีกเหมือนกันบอกว่า สุดท้ายเมื่อสำเร็จมรรคผลแล้วก็ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ ขณะที่ลูกศิษย์ทั้ง 7 ก็ขึ้นไปเป็นเทพอยู่บนสวรรค์เช่นกัน

กิมย้งผูกเรื่องว่า เบ๊เง็ก รู้สึกรำคาญใจกับการที่คูชู่กีศิษย์น้องของตัวเองยังยึดติดอยู่กับเรื่องเอาแพ้เอาชนะกับเจ็ดตัวประหลาด แถมทำท่าว่าจะชนะเสียด้วย เพราะลูกศิษย์ของคูชู่กีนั้นฉลาดล้ำจริงๆ อีกทั้งยังส่งศิษย์ในทางพรตคนหนึ่งขึ้นรมาย้ำนัดแห่งการประลองนั้นด้วย ศิษย์ของท่านคูชู่กีก็คือ อี้จี้เพ้ง ซึ่งใช้ไม่กี่ท่าก็สยบก๋วยเจ๋งได้สำเร็จ

เบ๊เง็กทราบเรื่องดังกล่าวก็เลยเดินทางขึ้นมาเหนือเพื่อมาสอนวิชาและสิ่งที่ก๊วยเจ๋งยังขาดอยู่ แต่ทว่าท่านรู้โดยความฉลาดหรือโดยญาณของท่านว่า ขืนเดินเข้าไปสอนวิชาช่วนจินเอาดื้อๆ ความที่พกโมหะจริตไว้เต็มเหนี่ยวของ 6 ตัวประหลาดก็จะไม่ยอมให้ก๊วยเจ๋งได้เรียนวิชาของช่วนจินอยู่ดี เบ๊เง็กก็เลยต้องมาสอนก๊วยเจ๋งแบบลับๆ บนยอดเขาสูง 2 ต่อ 2 เป็นเวลาสองปีเต็มโดยที่ 6 ตัวประหลาดไม่มีระแคะระคายเลย

“ซือแป๋ทั้งหกของท่านล้วนเป็นบุคคลอันดับเยี่ยมของยุทธจักร ท่านเพียงฝึกวิชาของผู้ใดผู้หนึ่งสำเร็จก็พอจะแสดงฝีมือให้มีชื่อในแผ่นดินได้แล้ว และท่านเองก็มิใช่ไม่มานะพยายามฝึกปรือ แต่ไฉนสิบกว่าปีนี้จึงมีความสำเร็จน้อยนิด ท่านทราบหรือไม่เพราะเหตุใด?” เบ๊เง็กตั้งคำถามกับก๊วยเจ๋งในคราวที่สนทนากันบนยอดเขา

“นั่นเพราะข้าพเจ้าโง่เขลาเกินไป บรรดาซือแป๋ทั้งหมดต่างทุ่มเทจิตใจฝึกสอนก็ฝึกไม่เป็นเสมอมา” ก๋วยเจ๋งตอบ

นั่นมิใช่สิ้นเชิง แต่เป็นการสอนโดยไม่เข้าใจหลัก ฝึกโดยไม่ถูกทาง” เบ๊เง็กกล่าว “เพราะถ้าถกถึงหลักวิชาบู๊ธรรมดา พลังการฝึกปรือของท่านในตอนนี้นับว่าไม่เลวอย่างยิ่ง แต่เมื่อลงมือครั้งแรกกลับโดนี้จี้เพ้งนักพรตน้อยพิชิตพ่ายแพ้ ในใจจึงเกิดท้อแท้รันทด เข้าใจว่าตัวเองใช้ไม่ได้ ฮาฮา นั่นนับว่าผิดพลาดโดยสิ้นเชิงแล้ว...นักพรตน้อยนั้นเอาชนะท่านได้ เพราะล้วนอาศัยกำลังพลิกแพลงเข้าเอาชัย หากถกถึงกำลังประจำตัวมันไม่แน่จะเข้มแข็งเหนือท่าน เยี่ยงนี้เถิด ศรัทธาที่บริสุทธิ์จริงใจของท่านและเราท่านต่างมีวาสนาร่วมกันอยู่ เราจะถ่ายทอดวิธี หายใจ นั่งลง ลุกเดิน และ นอนหลับแก่ท่าน”

กิมย้งอ้างคำพูดของเบ๊เง็กในเคล็ดที่สอนหายใจแก่ก๊วยเจ๋งว่า “ความคิดแน่วแน่ ใจไม่ฟุ้งซ่าน กายผ่อนคลาย เลือดลมปลอดโปร่ง หัวใจสงบ สติปัญญาเปรื่องปราดแจ่มใส ปฏิฐานเพิ่ม นิเสธลด ก่อนนอนต้องให้สมองว่างเปล่าแจ่มใส ไม่มีความคิดฟุ้งซ่านซักน้อยนิด จากนั้นเอนกายตะแคง ผ่อนลมหายใจยาวๆ ช้าๆ ใจไม่คิดวุ่นวาย สติไม่ออกรวนเร”

ก๋วยเจ๋งฝึกหายใจอย่างที้ว่าอยู่ครึ่งปีเศษ เมื่อฝึกวิชาในตอนกลางวันกลับพบว่าร่างกายเบาขึ้นแต่มือเท้าหนักหน่วงกว่าเดิม กำลังที่ไม่สามารถใช้ได้ในกาลก่อนตอนนี้พอยืดมือก็ก่อเกิดพลังพิศดารขึ้นเองตามธรรมชาติ จนหกตัวประหลาดต่างเข้าใจว่าก๋วยเจ๋งสูงวัยและมีความมานะพยายามจนเข้าใจหลักเคล็ดวิชาขึ้นมาเอง

สิ่งที่ก๋วยเจ๋งฝึกนั้น เราเรียกมันในยุทธจักรว่า กำลังภายใน!!

1 comment:

Venkat Prasad Vadla said...

Philippines is one the best countries to Study MBBS in Philippines because of low fees and first-rate technology. The Philippines Medical Universities are accepted worldwide. Study Medical Education Philippines Universities are the world's most affordable, according to a recently published global comparative study on affordability and accessibility in higher education.

Why are Indian Students interested to Study MD/MBBS In Philippines?

Indian Medical Students Eligibility, Fee Structure, Course Duration and University Admissions open Academic Year 2020-21

Philippines Medical Colleges fees are much lesser than that of Indian private colleges.